Terms of service

TH , EN

ข้อตกลงในการใช้บริการ


หมวดที่ 1 วัตถุประสงค์

  1. ข้อตกลงฉบับนี้กล่าวถึงการให้บริการต่างๆ โดยบริษัท คลาวด์ เอซ จำกัด (ที่อยู่ : 199 คอลัมน์ ทาวเวอร์, ชั้นที่ 15, ห้องที่ 1505, ถนนรัชดาภิเษก, แขวงคลองเตย, กรุงเทพฯ 10110, ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริษัท”) วัตถุประสงค์ของข้อตกลงฉบับนี้คือ เพื่อสร้างเงื่อนไขและข้อตกลงที่จำเป็นต่อการให้บริการ (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริการ”)

  2. หากบุคคลใด (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “ผู้สมัคร”) ได้ยื่นคำร้องขอทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกันกับการใช้บริการ (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริการ”) ซึ่งได้รับการอนุญาตจากบริษัท (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริษัทผู้ทำสัญญา”) บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้บริการในระหว่างการใช้บริการ

  3. หากเนื้อความของหนังสือข้อตกลงในการใช้บริการดังกล่าวมีส่วนต่างกันกับ เงื่อนไขการใช้บริการ ให้ถือเนื้อความของข้อตกลงในการใช้บริการในการพิจารณาเหนือเงื่อนไขการใช้บริการ

  4. เนื้อความ, ค่าบริการ, ระยะเวลาของสัญญาและอื่นๆ ในการบริการที่สามารถถูกใช้ได้โดยบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องถูกระบุอย่างชัดเจนใน ข้อตกลงการใช้บริการพร้อมทั้งในเงื่อนไขการใช้บริการด้วย

หมวดที่ 2 เอกสารสำหรับสมัคร ข้อตกลงการใช้บริการ

  1. ผู้สมัครจะต้องส่งเอกสารสั่งซื้อที่กำหนดโดยบริษัทผู้ทำสัญญามายังทางบริษัท

  2. ผู้สมัครจะต้องยืนยันเงื่อนไขการใช้บริการ ก่อนส่งเอกสาร

  3. หากทางบริษัทต้องการเอกสารเพิ่มเติม เพื่อพิจารณายืนยันการตกลงของผู้สมัครต่อข้อตกลงในการใช้บริการ

  4. ทางผู้สมัครจะต้องส่งเอกสารที่ถูกเรียกร้องมายังบริษัท

หมวดที่ 3 การตั้งข้อตกลงการใช้บริการ

  1. ข้อตกลงในการใช้บริการจะตั้งขึ้นเมื่อบริษัทได้แสดงความยินยอมต่อเอกสารสำหรับสมัครจากผู้สมัครที่มีเนื้อความตรงต่อบทบัญญัติในหมวดก่อนหน้า

  2. ทางบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธเอกสารสำหรับสมัครข้อตกลงการใช้บริการ หากผู้สมัครนั้นถูกพิจารณาว่ามีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • เอกสารสำหรับสมัครนั้นไม่ได้ถูกกรอกหรือกรอกไม่ครบถ้วน หรือมีข้อมูลไม่ถูกต้องอยู่ในเนื้อความของเอกสาร

  • เมื่อมีความเสี่ยงที่บริษัทผู้ทำสัญญาจะละเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการบริการหรือเงื่อนไขการบริการ

  • หากผู้ใช้เคยละเมิดข้อตกลงการใช้บริการหรือเงื่อนไขการใช้บริการมาก่อน

  • เมื่อมีเนื้อความใดก็ตามที่ขัดต่อข้อความหรือข้อผูกมัดที่ระบุไว้ในหมวดที่ 24

  • เมื่อธุรกิจของบริษัทถูกขัดขวาง หรือเมื่อทางบริษัทพิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสมที่จะยอมรับให้ทำข้อตกลงการใช้บริการ

  1. หากข้อตกลงในการใช้บริการนั้นได้ถูกตั้งขึ้นบนการยอมรับตามบทบัญญัติที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 1 ทางบริษัทจะแจ้งให้

  2. บริษัทผู้ทำสัญญาทราบถึงการยอมรับทำข้อตกลง

หมวดที่ 4 การเปลี่ยนชื่อและอื่นๆ

  1. หากมีข้อใดดังต่อไปนี้เกิดขึ้น บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องแจ้งกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า

  • (1)มีการเปลี่ยนชื่อธุรกิจหรือชื่อการค้า

  • (2)มีการเปลี่ยนตัวแทน

  • (3)มีการเปลี่ยนที่อยู่หรือที่ตั้งของสำนักงานใหญ่

  • (4)มีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อความในเอกสารที่ส่งมาให้ทางบริษัท

  1. ทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบหากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นเกิดความยากลำบากอันเกิดจากการละเลยในข้อสัญญา

  2. บนย่อหน้าข้างต้น

หมวดที่ 5 การเปลี่ยนแปลงเนื้อความการบริการ

  1. หากบริษัทผู้ทำสัญญา ต้องการเปลี่ยนเนื้อความการบริการที่จัดให้โดยทางบริษัท ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องยื่นเอกสารที่จำเป็นต่อทางบริษัทใหม่อีกครั้ง

  2. บทบัญญัติในหมวดที่ 2, ย่อหน้าที่ 2, ย่อหน้าที่ 3 และหมวดที่ 3 จะถูกบังคับใช้โดยสามารถอนุโลมได้สำหรับการเปลี่ยนเนื้อความของการบริการที่ได้ถูกระบุไว้ในย่อหน้าก่อนที่ผ่านมา

หมวดที่ 6 การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการใช้บริการ

  1. ทางบริษัทแจ้งการเปลี่ยนเนื้อความของเงื่อนไขการใช้บริการ โดยการเขียนลงบนเว็ปไซต์ของบริษัท (https://th.cloud-ace.com/home) ซึ่งในกรณีนี้ เงื่อนไขการใช้บริการที่มีต่อบริษัทผู้ทำสัญญาจะพิจารณาตามเนื้อความของเงื่อนไขการใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงล่าสุด

หมวดที่ 7 ค่าบริการ

  1. เมื่อใช้บริการ บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชำระค่าบริการต่อทางบริษัทตามจำนวนที่ระบุไว้ในข้อตกลงในการชำระค่าบริการ ตามวิธีที่ทางบริษัทกำหนดไว้

  2. ค่าบริการที่ต้องชำระที่ระบุไว้ข้างต้น จะต้องชำระโดยบริษัทผู้ทำสัญญาจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อค่าโอนเงินหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากการชำระ โดยวิธีการชำระเงินที่ทางบริษัทกำหนดไว้มีดังต่อไปนี้

  • จ่ายเงินสด

  • โอนผ่านธนาคาร

  • วิธีการอื่นๆ ที่ทางบริษัทกำหนดไว้

  1. อัตราแลกเปลี่ยนจะถูกคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยน USD ของ ธนาคาร CITIBank ซึ่งจะยืนยันตามวันที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้

  • อัตราแลกเปลี่ยน : ดอลลาร์สหรัฐ เป็น บาทไทย

  • สกุลเงิน : USD

  • ธนบัตร : ราคาขาย

  • อัตราแลกเปลี่ยนยืนยันตาม : วันที่ทำใบแจ้งหนี้(บริษัทคลาวด์ เอซ จำกัด ยืนยันอัตราแลกเปลี่ยนนี้)

หมวดที่ 8 การยกเลิกสัญญา

หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นยกเลิกสัญญาหรือภาระผูกพันทางการชำระเงินกับทางบริษัท อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชดใช้แก่ทางบริษัทเป็นจำนวนสองเท่า จากจำนวนที่ได้ยกเลิกไปอย่างไม่ถูกกฎหมาย รวมถึงชำระ

ภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ทางบริษัท

หมวดที่ 9 ความเสียหายที่เกิดจากความล่าช้า

หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นไม่สามารถชำระค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายผูกพันใดๆ กับต่อบริษัท ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติมโดยคิดเพิ่ม 14.6% จากวันที่ต้องชำระเงิน

หมวดที่ 10 ข้อห้าม, ข้อปฏิบัติและอื่นๆ

บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องไม่ละเมิดข้อบังคับในระหว่างการใช้บริการ ดังต่อไปนี้

  1. การกระทำใดๆ ก็ตามที่ละเมิดหรืออาจนำไปสู่การละเมิดเช่นการละเมิด สินเชื่อ, ความเป็นส่วนตัวหรืออื่นๆ ของทางบริษัท

  2. หรือบุคคลที่สาม

  3. การกระทำใดๆ ก็ตามที่ละเมิดหรืออาจนำไปสู่การละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาของทางบริษัท, บุคคลที่สาม

  4. (การสร้างหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีความคล้ายคลึงกันกับบริการของทางบริษัท เช่นเครื่องมือแปลภาษา เป็นต้น)

  5. ซึ่งรวมถึงการใช้บริการของทางบริษัทเพื่อใช้ในการละเมิดใดๆ

  6. ใช้บริการของทางบริษัทโดยอ้างตนเลียนแบบเป็นบริษัทหรือบุคคลที่สาม

  7. การกระทำที่มีความเกี่ยวข้อง, ส่งเสริมหรือเป็นเหตุต่อการทำอาชญากรรม

  8. การกระทำที่จะบิดเบือนหรือลบข้อมูลของทางบริษัทหรือบุคคลที่สาม ที่เข้าถึงได้ผ่านทางการใช้บริการ

  9. การกระทำใดๆ ก็ตามที่เป็นอุปสรรคหรือขัดขวางบทบัญญัติของการให้บริการ

  10. การกระทำที่รบกวนหรืออาจส่งผลในเชิงรบกวนต่อการใช้งานบริการหรือต่อบุคคลที่สาม

  11. การลอกเลียนแบบ, ปรับแต่ง, ซอฟต์แวร์หรือเนื้อความใดๆ ที่เป็นของทางบริษัทภายในการให้บริการ โดยรวมถึงการแปลกลับ, ปรับปรุง, แยกส่วนและการกระทำใดๆ ก็ตามที่จะดึงรหัสต้นฉบับ(Source code) ออกมา

  12. การนำบริการไปใช้ในการประกอบธุรกิจประเภท สถาบันนิวเคลียร์, การควบคุมจราจรทางอากาศ, อุปกรณ์ช่วยชีวิต ที่ผู้ทำสัญญาไม่ได้ครอบครองใบอนุญาตการใช้งานอย่างถูกกฎหมาย หรือใช้ในกิจการใดๆที่ความผิดพลาดของระบบนั้น จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและสภาพแวดล้อม

  13. การสร้างโครการหลายโครงการ โดยแสร้งว่ามีแค่โครงการเดียว (โดยใช้ทรัพยากรสำหรับการคำนวณ, พื้นที่จัดเก็บ, การติดต่อสื่อสารและอื่นๆ )

  14. การจัดการข้อมูลและการดูแลกิจกรรมใดๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับระเบียบข้อบังคับการเคลื่อนย้ายอาวุธที่กำหนด

  15. โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ

  16. การพัฒนาหรือการใช้บริการสื่อสารผ่านการบริการ (เช่น แอปพลิเคชั่นที่ให้ผู้ใช้โทรออกหรือรับสายจากระบบโทรศัพท์สาธารณะ)

  17. ใช้ ID และ Password อย่างผิดกฎหมาย

  18. การใช้บริการเพื่อนำไปใช้กับโปรแกรมเช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ที่จะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจอื่นๆ หรือต่อบุคคลที่สาม

  19. การกระทำใดๆ ที่จะเผยแพร่ข้อมูลอันไม่เหมาะสมเช่น ข้อมูลสำหรับผู้ใหญ่, หยาบคาย, อนาจารต่อเด็ก, ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมกับเด็กหรือการกระทำอื่นๆ ที่ทางบริษัทเห็นว่าไม่เหมาะสม รวมถึง การกระทำที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิของบริษัทและบุคคลที่สามหรือการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย, ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม

หมวดที่ 11 ข้อห้ามการนำไปขายใหม่

บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องไม่นำบริการไปขายใหม่(การขายต่อบริการที่เพิ่งซื้อมา) หรือมอบสิทธิ์ย่อยทั้งหมดหรือบางส่วนของการบริการให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับการยินยอมจากทางบริษัท

หมวดที่ 12 การฝากบุคคลที่สามขาย

ทางบริษัทสามารถมอบสิทธิ์ในการใช้บริการบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่บุคคลที่สาม หากได้รับความยินยอมล่วงหน้า

จากบริษัทผู้ทำสัญญา

หมวดที่ 13 การติดต่อ แจ้งเตือน

  1. การสอบถามเกี่ยวข้องกับบริการ, การแจ้งเตือนจากบริษัทผู้ทำสัญญาถึงทางบริษัท, การแจ้งเตือนที่มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงการใช้บริการหรือการแจ้งเตือนจากบริษัทถึงบริษัทผู้ทำสัญญา จะแจ้งเตือนในรูปแบบที่บริษัทกำหนดไว้

  2. หากทางบริษัทได้ส่งการแจ้งเตือนไปยังที่อยู่, เบอร์โทรหรืออีเมลใดๆ แก่บริษัทผู้ทำสัญญา การแจ้งเตือนนั้นโดยเหตุปกติ จะถึงผู้รับเสมอ ซึ่งหากเกิดเหตุที่ทำให้ส่งไม่ถึง จะพิจารณาว่าได้ส่งไปแล้ว

หมวดที่ 14 การสำรองข้อมูล

ทางบริษัทอาจสำรองข้อมูลหรือคัดลอกข้อมูลที่เก็บโดยบริษัทผู้ทำสัญญาบนเซิร์ฟเวอร์ ผ่านการใช้บริการเพื่อที่จะสำรองข้อมูลในกรณีที่อุปกรณ์เกิดความเสียหาย, หยุดการทำงานหรือการซ่อมบำรุงการให้บริการ

หมวดที่ 15 ความเป็นส่วนตัว

  1. ทางเราปกป้องความเป็นส่วนตัวและสิทธิทางกฎหมายของผู้รับบริการภายใต้ขอบเขตของกฎหมายและข้อบังคับ

  2. การใช้ข้อมูลส่วนตัวนั้นจะต้องใช้ในกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกันกับหลักนโยบายการปกป้องข้อมูลที่กำหนดโดยทางบริษัท https://www.cloud-ace.com/about-cloud-ace/privacy-policy

  3. ทางบริษัทอาจเข้าถึง, ดูแล, ใช้งานหรือเปิดเผยข้อมูลที่นำเข้ามาในระบบโดยบริษัทผู้ทำสัญญาผ่านทางบริการ ในส่วนเพิ่มเติมข้อมูลที่นำเข้ามาในระบบโดยบริษัทผู้ทำสัญญาผ่านทางบริการนั้นอาจถูกส่งต่อไปยัง Google LLC (บริษัท กูเกิล มหาชน) ตามความเหมาะสมของการให้บริการ

หมวดที่ 16 ข้อมูลที่เป็นความลับ

  1. บริษัทและบริษัทผู้ทำสัญญาจะเปิดเผยข้อมูลให้แก่กันตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการใช้บริการและข้อตกลงการใช้บริการ และจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลที่สามเว้นแต่ว่าจะได้รับการยินยอมจากทั้งสองฝ่าย

  2. ข้อมูลที่เป็นความลับตามที่ระบุในย่อหน้าก่อนหน้า จะไม่อยู่ในเงื่อนไขของหมวดหากมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  3. ข้อมูลที่เป็นที่รู้กันในสาธารณะโดยไม่คำนึงถึงความจริงอันเป็นสาธารณะหรือเหตุผลที่เกี่ยวข้องกันกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

  4. ข้อมูลที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายจากบุคคลที่สาม

  5. ข้อมูลที่ครอบครองไว้ในช่วงเวลาที่สามารถเปิดเผยได้แล้ว

  6. ข้อมูลที่ต้องเปิดเผยตามกฎหมาย, กฎองค์กรรัฐหรือโดยคำสั่งศาล

หมวดที่ 17 การลบข้อมูลลายลักษณ์อักษร

  1. ทางบริษัทสามารถหยุดการให้บริการเซิฟเวอร์ของบริษัทผู้ทำสัญญาโดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากเกิดเหตุดังต่อไปนี้

  2. เมื่อบริษัทพิจารณาแล้วว่าข้อมูลลายลักษณ์อักษรที่ถูกเขียนลงไปนั้นเป็นข้อมูลที่ขัดต่อข้อห้าม

  3. ในเหตุใดก็ตามที่ทางบริษัทพิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม

  4. ทางบริษัทสามารถลบข้อมูลลายลักษณ์อักษรของบริษัทผู้ทำสัญญาโดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและได้รับความยินยอม หากเกิดเหตุดังต่อไปนี้

  5. เมื่อช่วงเวลาที่กำหนดได้ผ่านไปแล้ว

  6. เมื่อความจุที่จัดสรรให้บริษัทผู้ทำสัญญานั้น มีความจุเกินกว่าที่กำหนด

หมวดที่ 18 การดูแลการบริการ การหยุดให้บริการชั่วคราว การเปลี่ยน การยกเลิกบริการSub-billing

  1. ทางบริษัทสามารถซ่อมบำรุงและตรวจสอบระบบในเวลาใดก็ตาม หลังจากหยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อรักษาสถานะการทำงานของการบริการให้อยู่ในสภาพดีเสมอ

  2. ตามที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า ตามกฎพื้นฐานแล้วจะมีการแจ้งบริษัทผู้ทำสัญญาก่อนเสมอ แต่ในกรณีฉุกเฉินทางบริษัทสามารถทำการซ่อมบำรุงและตรวจสอบโดยไม่มีการหยุดชั่วคราวหรือแจ้งล่วงหน้า

  3. ทางบริษัทสามารถหยุดการให้บริการชั่วคราวได้ หากมีเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้, การเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุสุดวิสัย

  4. ในกรณีของภัยพิบัติทางธรรมชาติ, อุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินใดๆ หรือเหตุใกล้เคียง ทางบริษัทจะให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการป้องกันภัยพิบัติหรือฟื้นฟูการสื่อสาร, เพาเวอร์ซัพพลายหรือระเบียบวิธีต่างๆ เพื่อควบคุมการสื่อสารที่จำเป็นต้องใช้ในกรณีเร่งด่วนเพื่อรักษาสาธารณะประโยชน์ และอาจจะมีการกำหนดข้อจำกัดในการใช้บริการ

  5. ทางบริษัทสามารถ เพิ่ม, เปลี่ยน หรือ ลบเนื้อหา ของการให้บริการ หลังจากที่ได้แจ้งล่วงหน้ากับทางบริษัทผู้ทำสัญญาก่อนแล้ว

  6. ทางบริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากทางบริษัทผู้ทำสัญญาหรือบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเกิดจากความล่าช้า หรือ จากการไม่สามารถให้บริการได้โดยเกิดจากเหตุที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า หรือ เหตุใดๆที่คล้ายคลึงกัน

หมวดที่ 19 ช่วงระยะเวลาของสัญญา

การบริการนั้นจะมีผล 1 เดือน นับจากวันที่ลงนาม และจะมีผลต่อผู้ทำสัญญาตามเนื้อความลายลักษณ์อักษร (ไม่เกิน 3 วันก่อนหมดสัญญาระหว่างบริษัทผู้ทำสัญญากับทางบริษัท หากตัวสัญญานั้นส่งไปไม่ถึงบริษัทผู้ทำสัญญาภายใน14วันก่อนวันหมดสัญญา) สัญญาจะมีการต่ออายุโดยจะมีเนื้อความตามเดิม โดยเริ่มต่อจากวันที่หมดสัญญาต่อไป

หมวดที่ 20 การยกเลิกการบริการโดยบริษัทผู้ทำสัญญา

  1. หากบริษัทผู้ทำสัญญาต้องการยกเลิกการบริการตามสัญญา บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องส่งเอกสารการขอยกเลิกโดยใช้รูปแบบที่ทางบริษัทระบุไว้ ให้แก่ทางบริษัท

  2. หากการบริการถูกยกเลิกโดยวิธีที่ระบุไว้ข้างต้น ค่าบริการของการบริการจนถึงวันที่ขอยกเลิกจะคำนวณตามสัดส่วนของวันที่ได้ใช้งานในเดือนนั้นๆ จนถึงวันยกเลิก อย่างไรก็ตาม ค่าบริการบางอย่างเช่นค่าธรรมเนียมตัวแทนนั้น จะไม่รวมอยู่ด้วย

หมวดที่ 21 การยกเลิก การหยุดใช้งานชั่วคราว การสูญเสียกำไรจากเวลาที่จำกัด

  1. หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นได้ละเมิดข้อใดๆ ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ทางบริษัทจะยกเลิกสัญญาทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และจะยกเลิกการให้บริการทั้งหมด ซึ่งในกรณีนี้ ทางบริษัทจะไม่ช่วยเหลือในกรณีที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทผู้ทำสัญญา

  2. เมื่อละเมิดบทบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงการใช้บริการและข้อตกลงการใช้บริการ

  3. เมื่อทางบริษัทผู้ทำสัญญาได้แจ้งหรือแสดงเอกสาร, การแจ้งเตือน ที่ผิดหรือมีลักษณะฉ้อโกง

  4. เมื่อบริษัทผู้ทำสัญญาใช้วิธีการชำระเงินค่าธรรมเนียมการใช้งาน ผ่านบัญชีของบริษัทตัวแทนรับชำระเงิน(เช่น Paypal หรือ True Wallet เป็นต้น) หรือ สถาบันทางการเงินที่ไม่ได้เป็นธนาคารหลัก

  5. เมื่อทางบริษัทผู้ทำสัญญานั้นหยุดการทำงานชั่วคราวหรือ ใบอนุญาตในการทำธุรกิจหรือทะเบียนธุรกิจถูกยกเลิกโดยผู้ตรวจสอบจากทางการ

  6. เมื่อบริษัทผู้ทำสัญญาได้รับหมายยึดทรัพย์, คำสั่งศาล, บทบังคับจากศาล, ใบคำส่งภาษีค้างชำระ หรือเอกสารใดๆที่มีความเกี่ยวข้องอยู่

  7. เมื่อบริษัทผู้ทำสัญญาอยู่ในช่วงการโดนฟ้องล้มละลาย, การคุ้มครองทรัพย์สินจากการล้มละลาย, การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรหรือการชำระหนี้พิเศษ

  8. เมื่อใบชำระเงินหรือเช็คที่ออกโดยธนาคารไม่สามารถส่งได้ หรือการชำระเงินถูกระงับชั่วคราว

  9. เมื่อคู่สัญญาหายไป, เงินทุนลดลง, ธุรกิจเปลี่ยนหรือเลิกกิจการ

  10. เมื่อเกิดเหตุใดๆ ที่สร้างความยากลำบากต่อข้อตกลงการใช้บริการและข้อตกลงการใช้บริการ

  11. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในทรัพย์สิน, เครดิตหรือความสามารถในการชำระเงิน

  12. หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นได้ละเมิดข้อใดๆที่ระบุไว้ข้างต้น ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชำระค่าบริการที่ค้างคาแก่ทางบริษัททันที

หมวดที่ 22 การลบข้อมูลหลังจากหมดสัญญา

หลังจากการหยุดให้บริการหลังจากหมดสัญญาหรือในกรณีอื่นๆ ทางบริษัทสามารถลบข้อมูลของบริษัทผู้ทำสัญญาในระหว่างการรับบริการที่เก็บไว้บนเซิฟเวอร์ ทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

หมวดที่ 23 ข้อห้ามการส่งต่อข้อตกลง

บริษัทผู้ทำสัญญาไม่สามารถส่งต่อข้อตกลงการใช้บริการ, สิทธิ และ ข้อผูกมัดภายใต้ข้อตกลงต่อบุคคลที่สาม

หมวดที่ 24 การกีดกันกลุ่มผู้มีอิทธิพลซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย

  1. ผู้ทำสัญญาหรือตัวแทนของผู้ทำสัญญาจะต้องเป็นบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือบุคคลอิทธิพลผิดกฎหมาย, บริษัทที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลผิดกฎหมาย, กลุ่มสมัชชา, กลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมและอื่นๆ หรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง (ซึ่งหลังจากนี้จะกล่าวถึงว่า “บุคคลที่มีความรุนแรง ”) ภายในระยะเวลา 5 ปี ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับบุคคลข้างต้นและจะไม่มีความเกี่ยวข้องในอนาคต

  2. มีความสัมพันธ์กับสมาชิกกลุ่มอิทธิพลที่มีอำนาจในการจัดการธุรกิจ

  3. มีความสัมพันธ์กับสมาชิกกลุ่มอิทธิพลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการธุรกิจ

  4. มีความสัมพันธ์กับกลุ่มหรือธุรกิจใดๆ ที่มีการใช้งานสมาชิกกลุ่มอิทธิพลเพื่อสร้างกำไรให้แก่บริษัทหรือบุคคลที่สาม หรือเพื่อสร้างความเสียหายให้กับบุคคลที่สาม

  5. มีความสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องในการจัดการเช่น การจัดการเงินทุนของกลุ่มอิทธิพลหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้

  6. มีความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดที่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดการที่สามารถระบุได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันกับกลุ่มอิทธิพล

  7. เมื่อทางบริษัทได้พบว่าบริษัทผู้ทำสัญญาหรือตัวแทนของผู้ทำสัญญา หรือผู้เป็นคนกลางของบริษัทผู้ทำสัญญานั้นเข้าข่ายข้อใดก็ตามที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า ทางบริษัทขอสงวนสิทธิในการยกเลิกการให้บริการตามสัญญาหรือยกเลิกสัญญาอื่นๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

  8. ทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดต่อบริษัทผู้ทำสัญญาอันเนื่องมาจากการยกเลิกการให้บริการตามเหตุที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า

หมวดที่ 25 ขอบเขตความรับผิดชอบ

  1. ทางบริษัทจำเป็นต้องเป็นผู้ให้บริการ หากไม่มีการให้บริการต่อบริษัทผู้ทำสัญญาเกิดขึ้น โดยเหตุเกิดขึ้นนั้นเป็นความรับผิดชอบของทางบริษัท หากไม่สามารถใช้บริการได้เป็นเวลา 72 ชั่วโมงติดต่อกันหรือ ไม่สามารถใช้บริการได้รวม 120 ชั่วโมงภายในเวลา1เดือน ซึ่งนับจากจากเมื่อทางบริษัททราบว่าทางบริษัทผู้ทำสัญญาไม่สามารถใช้บริการได้ ค่าบริการในเดือนนั้นๆ จะถูกจำกัดตามคำร้องของบริษัทผู้ทำสัญญาเพื่อเป็นชดเชยเป็นค่าเสียหาย อย่างไรก็ตามหากบริษัทผู้ทำสัญญาไม่ได้ยื่นคำร้องภายใน1เดือนจากวันที่สามารถยื่นคำร้องได้ บริษัทผู้ทำสัญญาจะเสียสิทธิในการยื่นคำร้อง

  2. ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากการซ่อมบำรุง, ถูกรบกวน, การเปลี่ยนการให้บริการ หรืออื่นๆ นั้นจะไม่นับว่าเป็น การไม่สามารถให้บริการต่อบริษัทผู้ทำสัญญาโดยเหตุมาจากความรับผิดชอบของทางบริษัท

  3. ทางบริษัทมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความเสียหายของข้อมูลหรือจากการสูญเสียข้อมูลหรืออื่นๆ โดยมีเหตุอันเนื่องมาจากการใช้บริการและการใช้ระบบเครือข่ายอื่นผ่านการให้บริการ อย่างไรก็ตามทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบริษัทผู้ทำสัญญา หากตรวจสอบพบว่าความเสียหายเกิดจากบริษัทผู้ทำสัญญาเอง

หมวดที่ 26 คำออกตัว

นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในหมวดก่อนหน้านั้น ทางบริษัทจะไม่ได้รับความเสียหายที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับการใช้งาน(เช่น ข้อมูลของบริษัทผู้ทำสัญญาได้หายไปจากเซิฟเวอร์, มีความเสียหายหรือรั่วไหล ซึ่งรวมถึงความเสียหายที่เกิดจากเหตุการใช้งานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับหน้าที่เดิมของข้อมูล) และทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องไม่เรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายกับทางบริษัท หากทางบริษัทผู้ทำสัญญาได้สร้างความเสียหายต่อบุคคลที่สามผ่านการใช้บริการ ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องรับผิดชอบในส่วนของความเสียหายนั้นๆ

แต่เพียงผู้เดียว

หมวดที่ 27 การชดใช้ค่าเสียหาย

หากทางบริษัทผู้ทำสัญญาหรือทางบริษัทนั้นได้ก่อความเสียหายแก่บุคคลที่สามโดยการละเมิดข้อตกลงการใช้บริการหรือเงื่อนไขการใช้บริการ(รวมถึงในกรณีที่เหตุมีความเกี่ยวข้องกันกับเนื้อหาที่ระบุไว้ใน หมวดที่ 24 ย่อหน้าที่ 1 ) จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งในกรณีนี้ จำนวนค่าเสียหายที่ทางบริษัทสามารถชดใช้แก่ทางบริษัทผู้ทำสัญญาได้ จะมีจำนวนเท่ากันกับค่าการใช้บริการที่จ่ายโดยบริษัทผู้ทำสัญญาต่อทางบริษัทในเดือนที่ผ่านมาตามสัญญา

อย่างไรก็ตาม วงเงินสูงสุดของการชดใช้ค่าเสียหาย จะไม่กำหนดวงเงินสูงสุดในการชดใช้ ในกรณีที่ทางบริษัทหรือบริษัทผู้ทำสัญญา ได้สร้างความเสียหายต่อบุคคลที่สามเนื่องจากความประมาทร้ายแรง

หมวดที่ 28 การหารือ

เนื้อหาใดๆ ที่ไม่ได้ถูกระบุไว้ในข้อตกลงการใช้บริการและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ และเนื้อหาใดๆ ที่มีการตีความต่างกันออกไปจากในข้อตกลงการใช้บริการและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ จะสามารถหาข้อตกลงระหว่างกันผ่านการหารือระหว่างบริษัทและบริษัทผู้ทำสัญญา

หมวดที่ 29 กฎหมาย

เนื้อหาของในข้อตกลงการใช้บริการทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย

หมวดที่ 30 อำนาจศาล

ในกรณีที่เกิดเหตุขัดแย้งด้านการบริการ ระหว่างบริษัทและบริษัทผู้ทำสัญญา ให้ใช้อำนาจของศาลแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อพิจารณาความขัดแย้งตามกฎหมาย


กรรมการผู้จัดการวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563